วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

อาหารชีวจิต




            พูดถึงชีวิตจิตแล้ว หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่อาจจะไม่เคยได้ใส่ใจหรือรับรู้ว่าชีวจิตคืออะไร อาหารชีวิตเป็นการกินอาหารที่เรียกว่าอาหารชั้นเดียว คือมีการปรุงแต่งน้อยที่สุด คงสภาพและรสชาติดั้งเดิมของอาหารไว้ เพราะต้องการให้มีสารพิษตกค้างในร่างกายน้อยที่สุด


เรียกได้ว่าการรับประทานอาหารแบบชีวจิตนั้นเป็นการดูแลสุขภาพโดยแท้จริง



ชีวจิต เป็นแนวความคิดต่อเรื่องสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) คือผนวกรวมเอา "ชีว" ที่หมายถึง "กาย" รวมเข้ากับ "จิต" ที่หมายถึง "ใจ" ให้เป็นสองภาคของชีวิตที่มีผลต่อกันและกันโดยตรง จึงอาจอธิบายได้ว่า คนเราจะมีความสุขความแข็งแรงได้ก็ต่อเมื่อกายและใจทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน



            ในปัจจุบัน มีผู้คนสนใจ หันมารับประทาน อาหารชีวจิตกันมากขึ้น อาหารชีวจิต จึงไม่ได้แค่คำนึงถึง แต่คุณค่าของอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และจิตใจเท่านั้นแต่ อาหารชีวจิต ต้องมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม ไม่หวาน ไม่เผ็ด ไม่เปรี้ยว ไม่เค็ม หรือไม่มัน จนเกินไป เพราะการรับประทาน อาหารที่มีรสจัดจนเกิน ไปอาจก่อให้เกิดโรคร้ายต่อร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น



การรับประทานอาหาร จำพวกแป้ง น้ำตาล หรือการรับประทานอาหาร ที่มีรสหวานมากจนเกินไป อาจเป็นโรคเบาหวาน ได้ง่าย การรับประทานอาหาร ที่มีรสเค็มมากจนเกินไป อาจเป็นโรคไต ได้ง่าย การรับประทานอาหาร ที่มีไขมันมากจนเกินไป อาจเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ง่าย
อาหารชีวจิตไม่เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อหรือบาปบุญคุณโทษ แต่เป็นการนำความรู้ทางโภชนาการขั้นสูงมาพิจารณาอาหารต่างๆ แล้วเลือกสรรเฉพาะอาหารที่ให้คุณค่าแก่ร่างกายและจิตใจมากที่สุด ที่สำคัญเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดสารพิษ "ท็อกซิน - Toxin" ตกค้างน้อยที่สุด





อาหารที่ชีวจิตแนะนำให้ "งด"

เนื้อสัตว์ย่อยยาก ได้แก่ เนื้อ หมู ไก่ แป้งขัดขาวและผลิตภัณฑ์จากแป้งขัดขาวทุกชนิด  น้ำตาลฟอกขาวและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลฟอกขาวทุกชนิด ไขมันเลว คือไขมันอิ่มตัว ได้แก่ ไขมันจากสัตว์ น้ำมันปาล์ม และกะทิ และแนะนำให้รับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้สมดุลตาม สูตรสัดส่วนอาหารชีวจิต
จากการสัมภาษณ์ผู้ที่รับประทานอาหารชีวจิตมาแล้วนั้น การทำให้ตรงตามแบบแผนเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการที่ต้องออกไปทำงาน พบปะผู้คน ทางเลือกของอาหารชีวจิตจึงมีน้อยมาก การหลีกเลี่ยงอาหารฟาสฟู้ด ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งการรับประทานอาหารครบสามมื้อ อย่างตรงเวลาก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน
ยังรวมไปถึงการปฏิบัติตัวแบบชีวจิตอีกด้วย การที่ต้องอยู่ในที่โล่ง กว้าง อากาศถ่ายเท หลีกหนีมลพิษทางอากาศจากควันรถและสิ่งเป็นพิษรอบตัว การอยู่ในที่มีต้นไม้เขียวขจี เป็นไปได้ยากสำหรับผู้คนที่อยู่ในสังคมเมือง และวัยทำงาน







การรับประทานอาหารชีวจิตนั้นได้ผลดีอย่างไร?

ต้องบอกก่อนว่าเราไม่สามารถทำได้เต็มที่ร้อยประเซ็น ฉะนั้นผลที่ได้รับอาจไม่ตรงตามที่คนอื่นเคยทำหรือทดลองไว้ สิ่งที่ได้คือ ขับถ่ายคล่องสุขภาพดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย แต่รสชาติอาหารจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่เนื่องจากไม่มีรสชาติไหนเด่น และไม่ใช่อาหารรสจัด จะเป็นอาหารจำพวกรสกลมกล่อมแต่รสจะอ่อนมาก
เมื่อมีการปฏิบัติทางกายแล้ว ก็ต้องมีการปฏิบัติทางใจด้วย ในด้านจิตใจ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือความสงบ ความสงบทางกายซึ่งอาศัยธรรมชาติเป็นปัจจัยจะทำให้เกิดความสงบทางใจ เกิดปัญญามองเห็นสัจธรรมของโลกและชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

แนวทาง



อาหารชีวจิตเป็นแนวทางการรับประทานอาหารที่ ดร.สาทิส อินทรกำแหง ศึกษาและปรับปรุงจากหลักการของแมคโครไบโอติกส์ ให้เหมาะสมกับสภาพวิถีชีวิตของคนไทยและเมืองไทยและให้ง่ายต่อการจัดหา ปรุง และรับประทาน

          กล่าวโดยรวมๆ อาหารชีวจิต คือ อาหารชั้นเดียว หมายถึง เป็นอาหารที่คงสภาพตามธรรมชาติเดิมไว้มากที่สุด ไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งมากมาย และคงรสชาติเดิมๆของอาหารไว้มากที่สุด
เช่นว่า
          ข้าว ก็เพียงแค่กระเทาะเปลือกออกกลายเป็นข้าวกล้อง ไม่ต้องขัดสีจนขาวจั๊วะ
          ทั้งนี้ อาหารชีวจิตไม่เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อหรือบาปบุญคุณโทษ แต่เป็นการนำความรู้ทางโภชนาการขั้นสูงมาพิจารณาอาหารต่างๆ แล้วเลือกสรรเฉพาะอาหารที่ให้คุณค่าแก่ร่างกายและจิตใจมากที่สุด ที่สำคัญเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดสารพิษ "ท็อกซิน - Toxin" ตกค้างน้อยที่สุด

อาหารที่ชีวจิตแนะนำให้ "งด"
  • เนื้อสัตว์ย่อยยาก ได้แก่ เนื้อ หมู ไก่
  • แป้งขัดขาวและผลิตภัณฑ์จากแป้งขัดขาวทุกชนิด
  • น้ำตาลฟอกขาวและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลฟอกขาวทุกชนิด
  • ไขมันเลว คือไขมันอิ่มตัว ได้แก่ ไขมันจากสัตว์ น้ำมันปาล์ม และกะทิ
  • และแนะนำให้รับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้สมดุลตาม สูตรสัดส่วนอาหารชีวจิต
ชีวจิตเป็นการรับประทานอาหารแบบคงสภาพเดิมมากที่สุด
การปรุงแต่งน้อย เนื่องจากต้องการให้มีสารตกค้างในอาหารน้อยที่สุด
ทั้งรสชาติและการปรุงแต่งจะต้องมีความพอดี กลมกล่อม รสไม่จัดจ้านมากนัก

สูตรอาหารชีวะจิต http://www.cheewajit.com/article.aspx?cateId=3














 อาหารชีวจิตเป็นแนวทางการรับประทานอาหารที่ ดร.สาทิส อินทรกำแหง ศึกษาและปรับปรุงจากหลักการของแมคโครไบโอติกส์ ให้เหมาะสมกับสภาพวิถีชีวิตของคนไทยและเมืองไทยและให้ง่ายต่อการจัดหา ปรุง และรับประทาน กล่าวโดยรวมๆ อาหารชีวจิต คือ อาหารชั้นเดียว หมายถึง เป็นอาหารที่คงสภาพตามธรรมชาติเดิมไว้มากที่สุด ไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งมากมาย และคงรสชาติเดิมๆของอาหารไว้มากที่สุด เช่นว่า ข้าว ก็เพียงแค่กระเทาะเปลือกออกกลายเป็นข้าวกล้อง ไม่ต้องขัดสีจนขาว
     



สูตรสัดส่วนอาหารชีวจิต
1. อาหารประเภทแป้งซึ่งไม่ขัดขาว
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifเช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ถ้าเป็นข้าวโพด จะเป็นข้าวโพดทั้งเมล็ดหรือทั้งฝัก และถ้าเป็นแป้งขนมปัง ก็เป็นขนมปังโฮลวีท และถ้าจะให้เป็นแป้งกลุ่มคอมเพล็กซ์ คาร์โบไฮเดรต คือเป็นแป้งหลายชั้นซึ่งมีโปรตีนปนอยู่ด้วย ก็ควรเติมมันเทศ มันฝรั่ง เผือก ฟักทองลงไป
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifกลุ่มนี้ รับประทาน 50% หรือครึ่งหนึ่งของแต่ละมื้อ
2. ผัก
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifใช้ทั้งผักดิบและผักปรุงสุกอย่างละครึ่ง ผักถ้าปลูกเอง ไม่ใช้สารเคมีจะดีที่สุด แต่ถ้าต้องซื้อจากตลาด ต้องเลือกผักที่ปลอดสาร ล้างผ่านน้ำ และแช่น้ำด่างทับทิมหรือแช่น้ำส้มสายชูเจือจางสัก 1-2 ชั่วโมง ก็จะช่วยล้างสารพิษได้ด้วย
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifรับประทานผักหนึ่งในสี่หรือ 25% ของปริมาณอาหารที่กินในแต่ละมื้อ
3. ถั่วต่างๆ อยู่ในประเภทโปรตีน
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifเช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifรับประทาน 15% ของแต่ละมื้อ
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifนอกจากนี้ จะใช้โปรตีนจากสัตว์เป็นครั้งคราว คือ ไข่ ปลา และอาหารทะเล สัปดาห์ละ 1-2 มื้อ
4. เบ็ดเตล็ด
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifประเภทแกงก็เป็น แกงจืด แกงเลียง
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifประเภทซุป ก็เป็นมิโซ่ซุป (มิโซ่ = เต้าเจี้ยวญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง)
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifประเภทของขบเคี้ยว งาสดและงาคั่ว ใช้อาหารต่างๆได้ทุกอย่าง ถั่วคั่ว เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม เมล็ดดอกทานตะวัน
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifผลไม้สด ต้องเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง มะละกอห่าม มะม่วงดิบ พุทรา
http://www.cheewajit.com/images/web/icon_1.gifรับประทาน 10% ของแต่ละมื้อ

อาหารชีวจิตคือ...?

อาหารชีวจิต เป็นอาหารที่เน้นความเป็นธรรมชาติ โดยมีการบริโภคพืชผักที่ปลูกตามธรรมชาติ ปลอดสารพิษ และสารเคมี ธัญพืชไม่ขัดสี เพื่อให้คุณค่าแก่ร่างกายและจิตใจ และลดสารพิษตกค้างในร่างกาย

ลักษณะของอาหารชีวจิต

คือ อาหารชั้นเดียว เป็นอาหารที่คงสภาพตามธรรมชาติเดิมไว้มากที่สุด ไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งมากมาย และคงรสชาติเดิมๆของอาหารไว้มากที่สุด

หลักการอาหารชีวจิต

ชีวจิต มาจากคำว่า ชีว ร่วมกับ จิต
: ชีว หมายถึง ชีวิต ร่างกาย
: จิต หมายถึง จิตใจ
ชีวจิต หมายถึง ร่างกายและจิตใจ

ดังนั้น ชีวจิต คือ ร่างกายและจิตใจ จุดประสงค์ของชีวจิต คือ ความสุขสมบูรณ์ทั้งกายและใจ โดยการยึดเอา วิธีการปฏิบัติและความคิด ในแนวธรรมชาติเป็นหลัก

อาหารชีวจิต ประกอบไปด้วยอาหาร 4 กลุ่ม:

1. ข้าว แป้ง ธัญพืช 50 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละมื้อ โดยอาหารธัญพืชเป็นข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือซึ่งไม่ผ่านการขัดสีเพื่อให้ได้วิตามินและเกลือแร่

2. ผัก 25 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละมื้อ ผักดิบและผักสุก อย่างละครึ่ง
ผักให้ วิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย

3. ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่ว 15 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละมื้อ ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วให้โปรตีนที่มีคุณภาพดี ไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย จะใช้โปรตีนจากสัตว์เป็นครั้งคราวคือ ปลาและอาหารทะเล ได้ประมาณอาทิตย์ละ1ครั้งเพื่อให้ได้กรดอะมิโนที่จำเป็น

4. เบ็ดเตล็ด 10 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละมื้อ แกง หรือ ซุปจำพวกแกงจืด แกงเลียง หรือซุปใช้มิโซหรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นผสมในน้ำแกง และผลไม้ควรเป็นผลไม้เขียวไม่หวาน เช่น ฝรั่ง มะม่วงดิบ

อาหารชีวจิตกับชีวิตคนไทยในปัจจุบัญ

อาหารชีวจิตกับชีวิตคนไทยในปัจจุบัญ